1. เหตุผลข้อแรกที่ผมเลือกใช้ Nikon มาตลอด 10 ปีของการถ่ายภาพ อันนี้เป็นเหตุผลที่ค่อนข้างส่วนตัวล้วนๆ ฮาฮาฮา เพราะผมว่า
Nikon เป็นกล้องที่ "SEXY" เอามากๆครับ!!! เปรียบเทียบสำหรับผม Nikon เหมือนกับสาว Pretty ที่งามเอามากๆ ทั้งด้วยรูปลักษณ์ การสัมผัส การใช้งาน สวยทุกมุมมอง แถมเธอคนนี้ยังสวยทั้งรูป จูบก็หอมด้วย ยิ่งอยู่กับเธอผมจึงยิ่งรักมากขึ้นทุกวันๆ
2.
Nikon เป็นกล้องที่ทนทรหดอย่างถึงที่สุดในทุกสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศของโลก ทั้งตัว Body กล้อง และเลนส์ ผมเคยนำกล้อง Nikon D200 ขึ้นไปถ่ายบนยอดเขาหิมะที่ประเทศ Switzerland เมื่อปี ค.ศ. 2008 ภายใต้อุณหภูมิ -15 องศาเซลเซียส กล้องยังทำงานปกติมาก สุดยอด! อีกครั้งไปเที่ยวที่เมือง Leh แคว้น Ladakh ทางอินเดียตอนเหนือ อุณหภูมิในทุ้งเวิ้งว้างและแห้งแล้งร้อนประมาณ 40 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทำให้สบายใจมากในการทำงาน ในภาพภาคสนาม ภาพข้างบนนี้ผมบินถ่ายภาพที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แม้แต่บนฟากฟ้า Nikon ก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังครับ
3. Nikon เป็นกล้องและเลนส์ที่ทราบกันดีว่า
"ให้ภาพสีสันสดใส" สีจัดจ้าน และ Contrast (ค่าความต่างของส่วนสว่างสุดและมืดสุดในภาพ) ค่อนข้างมาก ภาพออกมาจึงดูสดใส มีชีวิตชีวา เก็บสีได้เยี่ยมยอด เข้ากับสไตล์การถ่ายภาพและความชอบส่วนตัวของผมครับ ซึ่งคิดว่าช่างภาพอีกหลายๆ คนทั่วโลก ก็ติดใจคุณสมบัติยอดเยี่ยมข้อนี้ของ Nikon ภาพด้านบนนี้ ผมใช้กล้อง D3s ติดเลนส์ 70-200 mm. f2.8 VR I ถ่ายภาพดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ในฤดูหนาวเดือนธันวาคม 2011 ครับ สีอิ่มตัวสุดๆ เลย
4. เป็นที่ทราบกันดีว่า Lens ถ่ายภาพของ Nikon แทบจะทุกรุ่น โดยเฉพาะเลนส์ซูม เลนส์เทเล และเลนส์ซุปเปอร์เทเลที่ใช้ถ่ายภาพระยะไกล จำพวกภาพสัตว์ป่าและภาพกีฬานั้น
"โฟกัสได้ฉับไวมากๆ" ในเสี้ยววินาที ยิ่งทำงานกับระบบ Focus 51 จุด และระบบ Focus Tracking System ติดตามวัตถุ ของกล้องโปรตระกูล D3, D3s, D3x ด้วยแล้ว หายห่วง ในภาพด้านบน ผมใช้เลนส์ 500 mm. f4 VRII Nano ของ Nikon ถ่ายภาพเหยี่ยวอพยพผ่านเขาดินสอ ที่จ.ชุมพร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 แม้เหยี่ยวจะบินฉวัดเฉวียนปานใด ก็ไม่อาจรอดพ้นสุดยอดการ Focus ไปได้
5. Nikon เป็นกล้องที่พัฒนาตัว sensor รับภาพได้ยอดเยี่ยม (แม้จะไม่ได้ผลิตเอง) แต่เซนเซอร์ CMOS ที่ใช้ในกล้องโปรทุกรุ่น ก็สามารถเร่ง ISO ได้สูงปรี๊ด เรียกว่า
ใช้มือถือกล้องถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยมากๆ ได้ ในขณะที่ไฟล์ภาพที่ได้นั้นมีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำมาก (Very Low Noise at High ISO) ตัวอย่างภาพด้านบนนี้ ผมใช้กล้อง D3s ติดเลนส์ 14-24 mm. f2.8 Nano ถ่ายงานไหลเรือไฟที่ จ.นครพนม ปี 2011 เวลาประมาณเกือบห้าทุ่มแล้ว ทดลองเร่ง ISO ไปที่ 6400 แล้วถ่ายโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง ภาพที่ได้ยังออกมางดงาม ไม่สั่นไหว และแทบไม่มี Noise ปรากฏให้เห็นเลย มหัศจรรย์จริงๆ! ผลตรงนี้น่าจะมาจาก การที่วิศวกรของ Nikon ไม่อัดจำนวน pixel ที่มากเกินไปลงบนตัวเซนเซอร์ Full Frame แม้แต่องค์การ NASA ของสหรัฐฯ ยังสั่งกล้อง D3s ขึ้นไปใช้ถ่ายภาพบนยานอวกาศเลย เพราะเป็นกล้องที่แทบไม่มี Noise เลย
6. Nikon
เป็นกล้องที่สามารถถ่ายภาพในสถานการณ์ที่แทบจะมืดสนิท (Available Darkness) ได้อย่างน่าทึ่ง! ทำให้ช่างภาพถึงกับงุนงงไปเลย เมื่อเร่ง ISO เกิน 6400 ไปแล้ว ก็ยังมีค่า ISO Hi1, Hi2, Hi3 เทียบเท่า ISO 124000 โอ้วแม่เจ้า! ในภาพด้านบน ผมใช้กล้อง D3 กับเลนส์ 20 mm. f2.8 ใช้มือถือถ่ายหิ่งห้อยที่แม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี เพราะในเรือไม่มีที่ให้ตั้งขาตั้งกล้องได้ เรือก็โคลงตลอดเวลา หรือถ้ายิงไฟแฟลช์ออกไปก็จะกลบแสงหิ่งห้อยหมด เกิดเงาแข็งโป๊กไม่งาม หลังจาก Retouch ภาพอีกเล็กน้อยภายหลัง ก็ได้ภาพหิ่งห้อยในความมืด บวกกับแสงจันทร์สลัวๆ อยู่ด้านหลัง มหัศจรรย์จริงๆ!
7.
Nikon ได้พัฒนาเลนส์นาโน (Nano Lens) ขึ้นมา จากการวิจัยและทำงานหนักหลายปี เกี่ยวกับเรื่อง Semiconductor ซึ่เมื่อเคลือบชิ้นเลนส์ที่ดีอยู่แล้วเสริมเข้าไปอีก ก็จะได้ชิ้นเลนส์ Nano ที่ลดการสะท้อนแสงกลับ ถ่ายทอดสีสันสดใส จับทุกรายละเอียด ให้ภาพคมชัดมากๆ ในกรณีถ่ายย้อนแสงก็จะทำให้เกิดอาการแฟลร์ (Flare) น้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย เมื่อนำเลนส์ Nano มาใช้กับกล้อง Full Frame ก็จะสร้างสรรค์สุดยอดภาพได้ตามใจปรารถนาเลยล่ะครับ ภาพบนนี้ผมถ่ายดอกซากุระที่ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนธันวาคม 2011 ด้วยกล้อง D3s และเลนส์ 14-24 mm. f2.8 Nano ครับ
8. อีกเหตุผลที่ทำให้ผมเลือกใช้กล้อง-เลนส์ ของ Nikon มาตลอด ก็เนื่องจาก Nikon เขาออกแบบปุ่ม เมนู และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ไว้ให้เราได้เห็น กด หมุน เลื่อน อย่างง่ายดาย ข้อดีตรงนี้เรียกในศัพท์เทคนิคว่า
Best Ergonomic Design การใช้งานจึงฉับไว อาทิ ปุ่มเลือกค่า ISO, White Balance, Image Quality, Mode, Display และอื่นๆ ได้ถูกแยกเป็นปุ่มต่างหากไว้ให้เห็นได้ชัด ทั้งด้านบนและหลัง Body กล้อง ปรับเปลี่ยนค่าได้รวดเร็วทันใจ ซึ่งบางสถานการณ์ ภาพบางภาพอาจผ่านเข้ามาในชีวิตเราเพียงครั้งเดียว! เหตุผลข้อนี้เองจึงทำให้ผมวางใจ Nikon มาก
9.
Nikon เลนส์ มีระบบช่วยลดการสั่นสะเทือนของภาพ หรือ VR I (เพิ่ม speed ให้ได้อีก 2 stop) และล่าสุดยังมีระบบ VR II (เพิ่ม speed ให้อีก 4 stop อย่างน่าอัศจรรย์!) ในบางสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว สภาพแสงต่ำ แต่ไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ หากไม่ต้องการเร่ง ISO มากเกินไป ก็สามารถเปิดระบบ
VR (Vibration Reduction) ที่ด้านข้างกระบอกเลนส์ได้ ในภาพด้านบน ผมนำเลนส์ AF-S 500 mm. f4 Nano ED VR ลงเรือเล็กไปตามถ่ายภาพวาฬบรูด้า ที่ จ.เพชรบุรี เมื่อเดือนตุลาคม 2011 เรือแล่นตลอดเวลา ตั้งขาสามขา (Tripod) ก็ไม่ได้ ขาตั้งกล้องเดี่ยว (Monopod) ก็ไม่มี เลยต้องใช้วิธีถือถ่ายแบบอิสระ (Freehand) ยกเลนส์ขึ้นแบบนี้ แต่ระบบ VR ก็ช่วยให้ผมได้ภาพมาอย่างคบกริบทีเดียว!!!
10.
Nikon เป็น Brand ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สำหรับตัวผม ฟังก์ชั่นหลักๆ ที่กล้องบันทึกภาพควรทำได้ Nikon ก็มอบมาให้แล้วอย่างเต็มเปี่ยม เราต้องยอมรับกันว่า หลายเมนูในกล้องรุ่นใหม่ๆ ช่างภาพก็ไม่ได้ใช้ครับ! แค่รู้ว่ามีอยู่ แต่ไม่ได้ใช้งาน สำหรับคนที่เริ่มต้นจากการถ่ายภาพด้วย Film Slide อย่างผม คิดว่า ความเรียบง่าย ความธรรมดา ความสามัญ ของตัวกล้องและโหมดการใช้งาน เพิ่มด้วยมุมมองศิลปะ การจัดองค์ประกอบภาพเข้าไป ก็ทำให้ได้ภาพสวยที่มีเรื่องราว สื่อสารกับคนดูได้ และดูภาพแล้วเกิดแรงบันดาลใจ Nikon ไม่เคยละเลยการพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันตลาดโลกที่กำลังเติบโตและเปลี่ยนแปลงทุกขณะ
ด้วยเหตุผลทั้ง 10 ข้อนี้ Nikon จึงเป็น Brand ที่จะอยู่ในใจผมตลอดไป